หัวใจทำไมเต้นผิดจังหวะ

หัวใจทำไมเต้นผิดจังหวะ
แชร์

เมื่อพูดถึงโรคหัวใจเต้นผิดจังหวะหลายคนอาจมองว่าเป็นเรื่องไกลตัว ทั้งที่ความจริงแล้วโรคนี้สามารถเกิดขึ้นได้ทุกช่วงวัย โดยต้นเหตุที่ทำให้เกิดโรคนั้นมีทั้งจากการป่วยด้วยโรคหัวใจและหลอดเลือดหัวใจ โรคประจำตัว เช่น ไทรอยด์เป็นพิษ อีกทั้งพฤติกรรมการใช้ชีวิต ปัจจัยแวดล้อม และพันธุกรรมล้วนมีส่วนทำให้เกิดโรคนี้ได้เช่นกัน ซึ่งความรุนแรงของโรคอาจส่งผลให้เสียชีวิตแบบกระทันหันได้ ดังนั้นการรู้เท่าทันภาวะหัวใจเต้นผิดจังหวะจึงเป็นเรื่องสำคัญที่ควรต้องใส่ใจ

ปัจจุบันผู้ป่วยที่เป็นโรคหลอดเลือดหัวใจตีบพบบ่อยที่สุดประมาณ 70% รวมทั้งกลุ่มที่มีโรคประจำตัวหรือรับประทานยาบางชนิด จากข้อมูลที่ผ่านมาพบว่า โรคหัวใจเต้นผิดจังหวะในคนไทย 1,000 คน สามารถพบได้ 40 คน และมีแนวโน้มเพิ่มขึ้นเรื่อย ๆ ส่วนใหญ่พบในกลุ่มผู้สูงอายุ 65 ปีขึ้นไป แต่ทุกคนสามารถเป็นโรคหัวใจเต้นผิดจังหวะได้เช่นกัน

 

โรคหัวใจเต้นผิดจังหวะคืออะไร

โรคหัวใจเต้นผิดจังหวะเป็นความผิดปกติของการกำเนิดกระแสไฟฟ้าหัวใจหรือการนำไฟฟ้าหัวใจ หรือทั้งสองอย่างรวมกัน โดยส่งผลให้ผู้ที่ป่วยด้วยโรคนี้รู้สึกหัวใจเต้นผิดจังหวะและมีลักษณะหัวใจเต้นผิดปกติได้แก่

  • หัวใจเต้นช้าผิดปกติ คือน้อยกว่า 60 ครั้งต่อนาที
  • หัวใจเต้นเร็วผิดปกติ คือเร็วกว่า 100 ครั้งต่อนาที
  • หัวใจเต้นไม่เป็นจังหวะสม่ำเสมอ เช่น เต้น ๆ หยุด ๆ หรือเต้นเร็วสลับเต้นช้า

สาเหตุหัวใจเต้นผิดจังหวะคืออะไร

โรคหัวใจเต้นผิดจังหวะสาเหตุหลัก ได้แก่

  • โรคหัวใจและหลอดเลือด ได้แก่ โรคหลอดเลือดหัวใจตีบ โรคผนังกล้ามเนื้อหัวใจหนาตัวผิดปกติ โรคหัวใจพิการแต่กำเนิด โรคความดันโลหิตสูง โรคลิ้นหัวใจผิดปกติ
  • โรคประจำตัว ได้แก่ ไทรอยด์เป็นพิษ โรคเบาหวาน โรคอ้วน โรคไตวายเรื้อรัง และโรคนอนกรนร่วมกับภาวะหยุดหายใจขณะนอนหลับ เป็นต้น
  • ยาแก้หวัดบางชนิดที่มีส่วนผสมของซูโดอีเฟดรีน ซึ่งมีฤทธิ์กระตุ้นหัวใจ
  • เครื่องดื่มที่มีคาเฟอีนผสม ได้แก่ ชา กาแฟ น้ำอัดลม เครื่องดื่มชูกำลัง และแอลกอฮอล์
  • ยาเสพติดบางชนิดที่มีแอมเฟตามีนผสม
  • ยาลดน้ำหนัก ที่มีส่วนผสมของไซบูทรามีน
  • พันธุกรรม 

อาการหัวใจเต้นผิดจังหวะเป็นอย่างไร

โรคหัวใจเต้นผิดจังหวะอาการที่ปรากฏและควรรีบไปพบแพทย์ทันที ได้แก่

  • ใจสั่นผิดปกติ
  • วูบ
  • หน้ามืด
  • เป็นลม
  • จุกแน่นขึ้นคอ ลิ้นปี
  • เจ็บแน่นหน้าอก
  • อ่อนเพลีย ไม่มีแรง
  • นอนราบไม่ได้

ตรวจวินิจฉัยโรคหัวใจเต้นผิดจังหวะมีวิธีการอย่างไร

การตรวจหัวใจเต้นผิดจังหวะเพื่อวินิจฉัยโรคหัวใจเต้นผิดจังหวะมีหลายรูปแบบ ได้แก่

  1. การตรวจคลื่นไฟฟ้าหัวใจ ECG (Electrocardiogram) เหมาะกับผู้ป่วยที่มีอาการตลอดเวลา
  2. เครื่องบันทึกสัญญาณไฟฟ้า 24 – 48 ชั่วโมง (Holter Monitoring 24 – 48 hr.) เหมาะกับผู้ป่วยที่หัวใจเต้นผิดจังหวะในช่วงสั้น ๆ แต่เป็นบ่อยเกือบทุกวัน
  3. เครื่องบันทึกสัญญาณไฟฟ้าแบบพกพา (Event Recorder) เหมาะกับผู้ป่วยที่หัวใจเต้นผิดจังหวะไม่บ่อย อาจจะเดือนละ 1 – 2 ครั้ง โดยเครื่องจะบันทึกเป็นช่วงเวลาสั้น ๆ และกดปุ่มส่งบันทึกคลื่นไฟฟ้าหัวใจมาที่โรงพยาบาลได้
  4. เครื่องบันทึกสัญญาณไฟฟ้าชนิดฝังเครื่องใต้ผิวหนังบริเวณหน้าอก (Implantable Loop Recorder) เหมาะกับผู้ป่วยที่หัวใจเต้นผิดจังหวะไม่บ่อย จะใช้วิธีฝังบริเวณหน้าอกด้านซ้าย
  5. การตรวจเช็กสัญญาณไฟฟ้าที่ผิดปกติในหัวใจโดยใช้สายสวนหัวใจ (EP Study) จะใช้ในกรณีที่ไม่สามารถเจอภาวะหัวใจเต้นผิดปกติได้จากการตรวจต่าง ๆ ที่กล่าวมาข้างต้น

โรคหัวใจเต้นผิดจังหวะวิธีรักษาเป็นอย่างไร

การรักษาหัวใจเต้นผิดจังหวะขึ้นอยู่กับผู้ป่วยเป็นสำคัญว่าป่วยเป็นโรคหัวใจเต้นผิดจังหวะในแบบใด ได้แก่

  1. การให้ยาต้านหัวใจเต้นผิดจังหวะ
  2. การช็อกไฟฟ้าหัวใจเพื่อให้หัวใจกลับมาเต้นปกติ
  3. การจี้ไฟฟ้าหัวใจด้วยสายสวนหัวใจชนิดพิเศษ สวนเข้าไปบริเวณเส้นเลือดดำที่ขาหนีบ
  4. เครื่องกระตุ้นหัวใจ (Pacemaker) ใส่ในกรณีที่ผู้ป่วยหัวใจเต้นช้ามากผิดปกติ มี 2 แบบคือ ชนิดกระตุ้นห้องเดียวและสองห้อง การเลือกฝังเครื่องขึ้นอยู่กับผู้ป่วยเป็นสำคัญ โดยแบตเตอรี่ใช้งานได้ 10 ปีขึ้นไปและเข้าเครื่อง MRI ได้
  5. เครื่องกระตุกหัวใจอัตโนมัติหรือเครื่องช็อกไฟฟ้าหัวใจอัตโนมัติ (AICD) ในกรณีที่ผู้ป่วยหัวใจห้องล่างเต้นเร็วผิดปกติ หากหัวใจไม่กลับมาเต้นตามปกติในเวลาที่รวดเร็วอาจเสียชีวิตได้ แบตเตอรี่จะมีอายุใช้งาน 7 – 8 ปีขึ้นไป ข้อดีของเครื่องนี้คือ ถ้าอยู่บ้านแล้วหัวใจเต้นผิดจังหวะและมีอันตรายถึงชีวิต เครื่องจะกระตุกหัวใจอัตโนมัติให้ผู้ป่วยฟื้น

เครื่องกระตุ้นหัวใจ (Pacemaker) คืออะไร

หัวใจเต้นผิดจังหวะรักษาได้ด้วยเครื่องกระตุ้นหัวใจ (Pacemaker) คืออุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ที่ทำงานด้วยแบตเตอรี่เพื่อเข้าไปกระตุ้นการเต้นของหัวใจใช้รักษาภาวะหัวใจเต้นช้ากว่าปกติหรือภาวะหัวใจหยุดเต้นชั่วคราวเพราะหัวใจไม่สามารถสูบฉีดเลือกไปเลี้ยงอวัยวะต่างๆของร่างกายได้

เครื่องกระตุ้นหัวใจ (Pacemaker) มีกี่ประเภท แต่ละประเภทมีข้อดีอย่างไร

เครื่องกระตุ้นหัวใจ (Pacemaker) แบ่งออกเป็น 2 ประเภท ได้แก่

  1. เครื่องกระตุ้นหัวใจชนิดชั่วคราว (Temporary Pacemaker) มี 2 แบบ คือ
    • เครื่องกระตุ้นหัวใจชนิดชั่วคราวผ่านผิวหนัง (Transcutaneous Pacemaker) จะอยู่ภายนอกร่างกาย โดยมีแผ่นอิเล็กโทรดแปะที่ด้านหน้าและด้านหลังของหน้าอกฝั่งซ้าย มีข้อดีคือ ใช้งานง่าย เหมาะกับใช้ในกรณีฉุกเฉิน
    • เครื่องกระตุ้นหัวใจชนิดชั่วคราวผ่านทางหลอดเลือดดำ (Transvenous Pacemaker) เครื่องกระตุ้นหัวใจที่จะอยู่ภายนอกร่างกายแต่มีสายอิเล็กโทรดที่สอดผ่านหลอดเลือดดำไปยังหัวใจห้องล่างขวาเพื่อกระตุ้นให้หัวใจเต้นมีข้อดีคือส่งสัญญาณกระตุ้นหัวใจตรงตำแหน่ง
  2. เครื่องกระตุ้นหัวใจชนิดถาวร (Permanent Pacemaker) คือ การฝัง Pacemaker หรือเครื่องกระตุ้นหัวใจโดยแพทย์เฉพาะทางหัวใจจะผ่าตัดเปิดบริเวณหน้าอกใต้กระดูกไหปลาร้าเพื่อใส่สายกระตุ้นไฟฟ้าหัวใจเข้าไปทางหลอดเลือดดำเข้าไปที่ผนังด้านในหัวใจเพื่อเชื่อมกับเครื่องกระตุ้นหัวใจเพื่อแก้ปัญหาหัวใจเต้นช้าหรือเต้นไม่สม่ำเสมอ ข้อดีคือความเสี่ยงต่ำ หลังแผลหายกลับไปใช้ชีวิตได้ตามปกติ

หัวใจทำไมเต้นผิดจังหวะ

ดูแลหลังฝัง Pacemaker อย่างไร

  • หลังฝัง Pacemaker ต้องพักที่โรงพยาบาลเพื่อให้แพทย์ดูแลการทำงานของเครื่องกระตุ้นไฟฟ้าใจและตรวจเช็กการเต้นของหัวใจผู้ป่วย
  • ระวังไม่ให้แผลโดนน้ำจนกว่าแผลจะแห้งสนิทใช้เวลาอย่างน้อย 2 สัปดาห์
  • ห้ามยกแขนหรือพยายามเลี่ยงการใช้แขนข้างเดียวกับที่ใส่เครื่องกระตุ้นหัวใจอย่างน้อย 2 เดือน
  • อย่ายกของหนัก เลี่ยงกิจกรรมที่ต้องออกแรง 2 เดือน
  • พบแพทย์ตามนัดหมายทุกครั้งเพื่อตรวจสอบการทำงานของเครื่องกระตุ้นหัวใจ
  • หากต้องเข้ารับการรักษาหรือผ่าตัดต้องแจ้งแพทย์ให้ทราบว่าใส่เครื่องกระตุ้นไฟฟ้าหัวใจทุกครั้ง
  • ถ้าต้องขึ้นเครื่องบินเมื่อผ่านเครื่องตรวจจับโลหะต้องแจ้งเจ้าหน้าที่ทุกครั้ง

หัวใจทำไมเต้นผิดจังหวะ

วิธีป้องกันโรคหัวใจเต้นผิดจังหวะทำได้อย่างไร

  • ออกกำลังกายสม่ำเสมอ 45 นาที/วัน 3 – 5วัน/สัปดาห์
  • รับประทานอาหารครบ 5 หมู่
  • อย่ารับประทานอาหารหวาน มัน เค็มมากไป
  • เลี่ยงอาหารและเครื่องดื่มที่มีฤทธิ์กระตุ้นหัวใจ
  • นอนหลับพักผ่อนให้เพียงพอ 6 – 8 ชั่วโมง/วัน
  • ไม่เครียดจนเกินไป
  • ตรวจสุขภาพหัวใจทุกปี
  • หากมีโรคประจำตัวควรติดตามอาการกับแพทย์อย่างสม่ำเสมอ

โรงพยาบาลที่รักษาหัวใจเต้นผิดจังหวะ

คลินิกหัวใจเต้นผิดจังหวะ โรงพยาบาลหัวใจกรุงเทพ พร้อมดูแลรักษาทุกความผิดปกติของจังหวะหัวใจ โดยเฉพาะโรคหัวใจเต้นผิดจังหวะ เรามีความชำนาญในการจี้จุดกำเนิดการเต้นผิดปกติในหัวใจ ใส่เครื่องกระตุ้นไฟฟ้าหัวใจ และรักษาโรคหัวใจเต้นผิดจังหวะในทุกมิติ ด้วยทีมแพทย์ที่มากด้วยประสบการณ์ เครื่องมือที่ได้มาตรฐานและทันสมัย ความพร้อมของทีมพยาบาลและทีมสหสาขาเพื่อการรักษาที่มีประสิทธิภาพ มีสุขภาพหัวใจที่แข็งแรงไปอีกนาน

แพทย์ที่ชำนาญการรักษาหัวใจเต้นผิดจังหวะ

นพ.ยศวีร์ อรรฆยากร อายุรแพทย์โรคหัวใจ โรงพยาบาลหัวใจกรุงเทพ

สามารถคลิกที่นี่เพื่อทำนัดหมายได้ด้วยตนเอง

แพ็กเกจรักษาหัวใจเต้นผิดจังหวะและเครื่องกระตุ้นหัวใจ

แพ็กเกจรักษาหัวใจเต้นผิดจังหวะและเครื่องกระตุ้นหัวใจ ราคาเริ่มต้นที่ 230,000 บาท

คลิกที่นี่

แชร์

สอบถามเพิ่มเติมที่

ชั้น 2 อาคาร H โรงพยาบาลหัวใจกรุงเทพ
info@bangkokhospital.com