เปลี่ยนลิ้นหัวใจแบบไม่ต้องเปิดหน้าอก

โรคหลอดเลือดและลิ้นหัวใจเสื่อมสภาพ ไม่ยืดหยุ่น มีไขมันและหินปูนเกาะพบมากในผู้สูงอายุ ส่งผลให้ลิ้นหัวใจเปิดปิดไม่สนิท เกิดภาวะลิ้นหัวใจตีบรุนแรง ไม่สามารถสูบฉีดเลือดไปเลี้ยงส่วนต่าง ๆ ได้ มีข้อมูลที่น่าสนใจพบว่า เมื่อเป็นโรคนี้แล้วรักษาด้วยยาเพียงอย่างเดียว มีโอกาสเสียชีวิตใน 3 ปี แต่ถ้ายังมีชีวิตอยู่ก็ไม่สามารถช่วยเหลือตัวเองได้ ที่สำคัญยังมีโรคอื่น ๆ ร่วมด้วย อาทิ ความดันโลหิตสูง เบาหวาน เป็นต้น ทำให้มีโอกาสเสียชีวิตสูงมากหากผ่าตัดเปลี่ยนลิ้นหัวใจแบบเปิดหน้าอก ดังนั้นเพื่อการกลับไปมีคุณภาพชีวิตที่ดี การเปลี่ยนลิ้นหัวใจแบบไม่ต้องผ่าตัดเปิดหน้าอกแต่ใช้สายสวน (TAVI) คือทางเลือกในการรักษาที่ช่วยให้เจ็บน้อย ฟื้นตัวเร็ว ลดความเสี่ยงและภาวะแทรกซ้อนได้เป็นอย่างดี
สัญญาณเตือนลิ้นหัวใจมีปัญหา
- เหนื่อยง่าย
- อ่อนกำลัง
- หน้ามืดเป็นลมบ่อย ๆ
เปลี่ยนลิ้นหัวใจแบบไม่เปิดหน้าอก (TAVI)
การเปลี่ยนลิ้นหัวใจด้วยเทคนิคการใช้สายสวนแบบไม่ต้องผ่าเปิดหน้าอก (TAVI – Transcatheter Aortic Valve Implantation) มีหลักการคือ ใช้ลิ้นหัวใจแบบเนื้อเยื่อยึดติดกับขดลวดพิเศษที่ม้วนให้เล็กเพื่อเข้าไปอยู่ในท่อเล็กประมาณ 8 – 10 มิลลิเมตรของ Delivery System จากนั้นสอด Delivery System เข้าไปตามหลอดเลือดแดงบริเวณขาหนีบ (Trans Femoral Route) ไปที่ยอดของหัวใจห้องล่างซ้ายไปถึงตำแหน่งของลิ้นหัวใจเอเออร์ติก แล้วจึงปล่อยลิ้นหัวใจที่ม้วนอยู่ออกจาก Delivery System ส่งผลให้ลิ้นหัวใจกางออกและกลายเป็นอันใหม่ โดยผู้ป่วยจะมีแผลบริเวณขาหนีบทั้ง 2 ข้างหรือบริเวณหน้าอกด้านซ้ายหรือด้านบนของหน้าอกข้างขวา
มั่นใจกับข้อดีของ TAVI
- ผู้ป่วยไม่ต้องผ่าตัดใหญ่ ดมยาน้อย เสียเลือดน้อย
- ความเสี่ยงลดลง ภาวะแทรกซ้อนน้อยลง เช่น ติดเชื้อ ไตวาย
- โอกาสเสียชีวิตน้อยลง
- เจ็บน้อย
- ฟื้นตัวไว
- คุณภาพชีวิตดีขึ้น
ล้ำหน้ากับห้องผ่าตัดไฮบริด (Hybrid OR)
การเปลี่ยนลิ้นหัวใจนอกจากความชำนาญของศัลยแพทย์หัวใจ ปัจจัยต่าง ๆ ของผู้ป่วย อุปกรณ์และเครื่องมือที่ทันสมัย สิ่งที่จะช่วยให้การผ่าตัดเป็นไปอย่างราบรื่นคือ ห้องผ่าตัดไฮบริด (Hybrid OR) ที่มีจุดเด่นคือ นำศักยภาพของห้องสวนหัวใจและห้องผ่าตัดหัวใจและเส้นเลือดมารวมไว้ในห้องเดียวเพื่อใช้ในการผ่าตัดร่วมกับการสวนหัวใจ เตียงผ่าตัดสามารถปรับมุมและเคลื่อนตัวอิสระถึง 360 องศา มีระบบการนำภาพเอกซเรย์แบบ Flex Move Heart Navigator ถ่ายภาพหัวใจอย่างละเอียดทุกมุม ช่วยให้แพทย์ผ่าตัดได้ตรงจุดถูกต้อง ที่สำคัญหากผู้ป่วยเกิดปัญหาแทรกซ้อนจากการสวนหัวใจหรือระหว่างใส่ขดลวดเข้าไปในเส้นเลือดใหญ่ก็สามารถทำการผ่าตัดได้ทันทีโดยไม่ต้องย้ายเตียง ผลการรักษาจึงเป็นไปตามเป้าหมายที่ตั้งไว้ร่วมกัน
การตรวจเช็กสุขภาพหัวใจของผู้สูงวัยเป็นประจำทุกปีคือสิ่งสำคัญ เพราะความผิดปกติของลิ้นหัวใจบางครั้งอาจไม่แสดงอาการ และถ้าหากจำเป็นต้องเปลี่ยนลิ้นหัวใจ ปัจจุบันสามารถเปลี่ยนลิ้นหัวใจแบบไม่เปิดหน้าอก (TAVI) ซึ่งช่วยให้ฟื้นตัวได้เร็วและกลับมามีหัวใจที่แข็งแรงอีกครั้ง
